anne pro 2

สวัสดีครับ หลังจากที่ได้ทดลองใช้เจ้า Anne pro 2 มาเกือบๆ 1 อาทิตย์ วันนี้ก็จะมารีวิวให้ทุกๆท่านได้อ่านกันนะครับ

Anne pro 2 คือ Mechanical keyboard 60% ที่ทำขึ้นโดย Obins brand จากแดนดินถิ่นมังกร

สาเหตุที่ผมเลือกเจ้า Anne pro 2 มาเป็น คีย์บอร์ดประจำตัว ก็เพราะว่า ลักษณะรูปร่างที่เล็กกระทัดรัด พกพาง่าย

มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย สามารถใช้ได้ทุกแพลตฟอร์มและรองรับการใช้งานแบบไร้สายผ่าน Bluetooth

เจ้า Anne pro 2 จึงเป็นเป้าหมายหลักของผมในการซื้อมาใช้งานครับ

แกะกล่อง Anne pro 2

anne pro 2

ภายในกล่อง

  1. ตัวคีย์บอร์ด
  2. Keycap
  3. Keycap puller
  4. Type c cable
  5. คู่มือ

งานประกอบและดีไซน์

Anne pro 2 เป็น Mechanical keyboard ขนาด 60% มี Switch ให้เลือกซื้อมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น Gateron, Kalih และ Cherry ซึ่งตัวที่ผมได้มาจะเป็น Gateron blue และ brown

ลักษณะภายนอกดูเหมือนคียบอร์ด 60% ทั่วไป ด้านหลังมีช่องเสียบ Type c cable และ ด้านใต้มีสวิตซ์เปิดปิด Bluetooth

ตัวคีย์บอร์ดทำมาจากพลาสติก และ Keycap เป็นแบบ PBT Doubleshot ที่ทำให้แสงลอดผ่านได้ แต่ไม่มี Layout ภาษาไทยมาให้นะ

งานประกอบโดยรวมค่อนข้างโอเคไม่พบความผิดปกติใดๆ ภายในบรรจุแบต 1900mAh เอาไว้ สามารถใช้ได้ถึง 8 ชั่วโมง !

anne pro 2

Anne pro 2 - สีดำ blue switch, สีขาว brown switch

anne pro 2

Anne pro 2 - ด้านข้างเทียบกับ macbook 13'

anne pro 2

Anne pro 2 - ด้านหลัง

anne pro 2

Anne pro 2 - ด้านใต้

การใช้งาน

หลังจากที่ได้ลองพิมพ์ทั้ง 2 สวิตซ์ มาเกือบๆ 1 อาทิตย์ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็น Coding ก็ขอแยกการใช้งานดังนี้

Brown switch

ปกติ Brown switch ถูกออกแบบน้ำหนักการกดมาให้อยู่กึ่งๆระหว่าง Red และ Blue ทำให้เวลาพิมพ์ไปนานๆไม่รู้สึกเมื่อยนิ้ว

ซึ่งจากการใช้งานจริงๆก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่รู้สึกเมื่อยนิ้ว แต่เวลากดลงไปฟิลลิ่งมันจะหนืดๆหน่อย คล้ายกับว่าปุ่มมันไม่เด้ง 55

ข้อเสียที่เจอคือ ด้วย Layout ของ 60% ที่แต่ละคีย์จะอยู่ติดๆกัน ทำให้บางครั้งผมก็พิมพ์ลั่นได้เหมือนกัน แต่ไม่บ่อยนะ

Blue switch

ถ้าพูดถึงการพิมพ์งานแล้ว ผมยกให้ Blue switch เป็นตัวเลือกแรกเลยครับ จากการใช้งานผมคิดว่าถ้าจะเอามาใช้พิมพ์งาน

Anne pro 2 with blue switch น่าจะเป็นอะไรที่โอเคที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าจะต้องออกแรงกดมากขึ้นนิดนึง

แต่มันสามารถลดการพิมพ์ลั่นได้ และฟิลลิ่งที่ได้คือสนุกมากครับ เพราะว่าปุ่มมันจะเด้งและมีเสียงคลิ๊กๆเวลากด

ข้อเสียที่เจอคือ เมื่อยนิ้ว + เสียงดังครับ 5555

การเล่นเกม

ส่วนตัวเล่นแต่ Dota 2 ซึ่งไม่ได้กดคีย์บอร์ดอะไรมากนัก ทำให้ผมสามารถใช้สวิตซ์ตัวไหนเล่นก็ได้

แต่ผมคิดว่าถ้าเอาไปเล่นเกม FPS หรือเกมที่ต้องใช้ความรวดเร็วในการตอบสนอง Brown น่าจะเหมาะกว่าครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็น่าจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วย

การเชื่อมต่อ

  • เชื่อมต่อด้วย Type c cable - เราสามารถเสียบสายและเชื่อมต่อได้เลยผ่านช่อง Type c ด้านหลังคีย์บอร์ด (เสถียรสุด)

  • Bluetooth - สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมหลงรักเจ้า Anne pro 2 คือการใช้งานแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 4.0

    จากการใช้งานจริงพบว่า ดีเลย์เป็นบ้างครั้ง(แปบเดียว)เพราะผมตั้งให้มัน Sleep เมื่อไม่ได้ใช้งาน เวลาปลุกมันก็เลยเอ๋อหน่อยๆ

    • วิธีใช้ก็ง่ายมาก เปิดสวิตซ์ Bluetooth ใต้คีย์บอร์ด จากนั้นกดปุ่ม FN2 + 1 - 5 ค้างไว้ประมาณ 3 วิ ถ้าเห็นไฟกระพริบก็กดค้นหาในอุปกรณ์ได้เลย
    • การสลับอุปกรณ์ทำได้โดยการกดปุ่ม FN2 + 1 - 5 แค่นี้แหละ ง่ายใช่ไหมล้าาาาา
  • USB Bluetooth - Anne pro 2 รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB Bluetooth สำหรับเครื่องที่ไม่มี Bluetooth ซึ่งต้องซื้อแยก

เสียง

  • Anne pro 2 with brown switch

  • Anne pro 2 with blue switch

Software - Obinslab starter

Anne pro 2 มาพร้อม Software ชื่อ Obinslab starter มีทั้งใน Windows และ macOS สามารถดาวน์โหลดได้จาก http://en.obins.net/

แต่การตั้งค่าต่างๆต้องทำผ่านสาย Type c นะครับ ไม่สามารถตั้งผ่าน Bluetooth ได้

  • เมื่อเสียบสายและเข้ามาแล้ว หน้าแรกที่เจอคือ หน้าการตั้งค่าพื้นฐานครับ ทางซ้ายมือจะเป็นเมนู
obinslab starter

Obinslab starter - หน้าแรก

  • เราสามารถ Up/Down grade version ของคีย์บอร์ดได้โดยการเลือก Firmware Upgrade เพื่อดูรายการทั้งหมดครับ
obinslab starter

Obinslab starter - Firmware Upgrade

  • เมนูรูปคีย์บอร์ดคือ การตั้งค่า Layout สำหรับใช้งานต่างๆครับ ซึ่งเราสามารถกำหนดได้เองหมดเลย
obinslab starter

Obinslab starter - Layout setting

  • ต่อไปเป็นการตั้งค่าสีของไฟบนคีย์บอร์ดครับ ซึ่งเราสามารถกำหนดเองได้อีกเช่นเคย
obinslab starter

Obinslab starter - Color setting

  • สุดท้ายเป็นการตั้งค่า Macro ครับ ปล.อันนี้ยังไม่ได้ลอง 555
obinslab starter

Obinslab starter Macro setting

ข้อดี

  • เล็กกระทัดรัด พกพาง่าย
  • เป็น Mechanical keyboard 60% ราคาไม่แพงแต่เต็มไปด้วยคุณภาพ 19xx - 3xxx (แล้วแต่ร้าน,ช่วงเวลาอีกที 55)
  • รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
  • มี Software support
  • Modify ได้ง่าย เพราะ โครงสร้างไม่ซับซ้อน (สามารถหาข้อมูลดูได้ใน reddit https://www.reddit.com/r/AnnePro/)

ข้อเสีย

  • Bluetooth เอ๋อเป็นบางครั้ง แต่นานๆเป็นที
  • ไม่มี Layout ภาษาไทย ถ้าอยากได้ต้องหา Keycap มาเปลี่ยนเอง
  • ประกันไม่มีเพราะสั่งมาจาก ตปท (จริงๆมันเขียนไว้ว่าประกัน 1 ปีนะ แต่ต้องส่งไปที่จีน)
  • การตั้งค่าต้องทำผ่านสายทุกครั้ง ไม่สามารถทำผ่าน Bluetooth ได้

สำหรับผมแล้ว Anne pro 2 เป็น Mechanical keyboard 60% ที่เหมาะสำหรับ คนที่อยากได้คีย์บอร์ดขนาดเล็กพกพาง่าย

แถมรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย มาพร้อม Software ซึ่งจากการที่ใช้มาเกือบๆ 1 อาทิตย์ รู้สึกว่ามันเป็นคีย์บอร์ดที่คุ้มค่าตัวมากๆ

ฟิลลิ่งในการกดไม่ว่าจะเป็น Gateron blue หรือ brown ทั้งสองตัวสนุกไม่แพ้กันครับ ต่างกันที่เสียงและน้ำหนักการกดแค่นั้น

หรือหากใครต้องการเป็น Cherry switch ก็สามารถหาซื้อได้เลย แต่ราคาจะแพงขึ้นนิดหน่อย

สำหรับคนที่อยากได้ Mechanical keyboard เล็กๆพกพาสะดวก รองรับการใช้งานแบบไร้สาย

หรือ กำลังมองหา Mechanical keyboard เริ่มต้น ผมขอแนะนำ Anne pro 2 ครับ :)

anne pro 2

Anne pro 2 :D